การเปิดบัญชีลงทุนกับ UOBKayHian แบ่งเป็น 2 ช่องทาง ดังนี้

การเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลนรองรับประเภทบัญชีเงินฝาก (Cash Balance) - การนำเงินสดวาง หลักประกันเต็มจำนวน 100% ก่อนซื้อหลักทรัพย์ โดยวงเงินอนุมัติเริ่มต้น 500,000 บาท

3 ขั้นตอนการเปิดบัญชีออนไลน์

1

ลูกค้าต้องทำ Dip Chip คือ การนำบัตรประชาชนไปที่สาขาธนาคารหรือตู้ ATM พร้อมทั้งสมัครบริการ NDID เพื่อยืนยันตัวตนผ่านแอปธนาคาร


            1.1 นำบัตรประชาชนติดต่อเคาน์เตอร์ธนาคารหรือตู้ ATM (ซึ่งปัจจุบันตู้ ATM ที่รองรับการยืนยันตัวตนนั้นมีแค่ตู้กสิกรไทยเท่านั้น)


            1.2 ลงทะเบียนบริการ NDID ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารได้ 9 ธนาคาร ดังนี้


2

กรอกข้อมูลเปิดบัญชีออนไลน์ ( Open Account ) พร้อมเตรียมเอกสารและถ่ายภาพ


3

รอผลการอนุมัติเปิดบัญชี ผ่านทาง Email


          จากนั้น กดปุ่ม ลงทะเบียน เพื่อยืนยันตัวตนก่อนการใช้งานออนไลน์ครั้งแรก


กรอก Username และ Registration Code ที่ได้รับทาง Email

กรอกเลขบัตร ประชาชน 13 หลัก พร้อมข้อมูล วัน เดือน ปีเกิด จากนั้น กดปุ่ม Submit

ตั้งรหัสผ่านใหม่ เพื่อเข้าใช้งานเป็นตัวเลข และตัวอักษรภาษาอังกฤษ 6-10 หลัก

ตั้งรหัสส่งคำสั่ง ซื้อขาย (Pin no.) ประกอบด้วย ตัวเลข 6 หลัก จากนั้น กด ยืนยัน เพื่อใช้งานทันที

เปิดบัญชีซื้อขาย ด้วยแบบฟอร์มขอเปิดบัญชี

ขั้นตอนการดำเนินการ

1

เลือกประเภทบัญชีซื้อขาย


เอกสารประกอบการเปิดบัญชี


สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด


สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ชุด


สำเนาหน้าแรกสมุดบัญชีเงินฝาก 1 ชุด


ค่าธรรมเนียมอากรแสตมป์ 30 บาท


สำหรับประเภทบัญชีเครดิต (Cash Account) แนบสำเนาบัญชีเงินฝากธนาคาร ย้อนหลัง 3 เดือน 1 ชุด


2

ยื่นเอกสารมาที่ บมจ.หลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (สำนักงานใหญ่) ฝ่าย E-Business เลขที่ 130-132 อาคารสินธร ทาวเวอร์ 1 ชั้น 3 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 หรือใช้บริการ messenger ของทางบริษัท หลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน


3

รอผลการอนุมัติเปิดบัญชี ผ่านทาง Email จากนั้น กดปุ่ม ลงทะเบียน เพื่อยืนยันตัวตนก่อนการใช้งานออนไลน์ครั้งแรก


กรอก Username และ Registration Code ที่ได้รับทาง Email

กรอกเลขบัตร ประชาชน 13 หลัก พร้อมข้อมูล วัน เดือน ปีเกิด จากนั้น กดปุ่ม Submit

ตั้งรหัสผ่านใหม่ เพื่อเข้าใช้งานเป็นตัวเลข และตัวอักษรภาษาอังกฤษ 6-10 หลัก

ตั้งรหัสส่งคำสั่ง ซื้อขาย (Pin no.) ประกอบด้วย ตัวเลข 6 หลัก จากนั้น กด ยืนยัน เพื่อใช้งานทันที

การซื้อขายออนไลน์

ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว บริษัทฯ จึงมีบริการที่เป็นทางเลือกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ที่ www.utrade.co.th ทำให้ง่าย สะดวกรวดเร็ว และส่งคำสั่งซื้อขายได้ตลอดทุก 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังติดตามราคาความเคลื่อนไหวของหลักทรัพย์แบบ Real time ผ่านหน้าจอที่ออกแบบมาให้เหมาะกับนักลงทุน นอกจากนี้แล้วท่านยังสามารถดูข้อมูล ติดตามสภาวะตลาดและทำรายการซื้อขายออนไลน์ผ่านทางโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต(Tablet) ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ได้ทันที เพื่อให้ท่านไม่พลาดโอกาสในการลงทุนทุกที่ทุกเวลา, ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยคอมมิชชั่นที่ถูกกว่าการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด ภายในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ยังมีเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจลงทุนให้กับลูกค้า ได้แก่ บทวิเคราะห์พื้นฐานและเทคนิคที่นำเสนอโดยนักวิเคราะห์มืออาชีพของบริษัทฯ จึงทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้น

ดาวน์โหลด UTRADEPLUS TH Mobile ได้แล้ววันนี้ !!

ประเภทบัญชีซื้อขาย

ประเภทบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ มีทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้
1.บัญชีเงินสด (Cash Account)เป็นบัญชีที่ทางบริษัทฯ จะกำหนดวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ โดยพิจารณาจากหลักฐานทางการเงินของนักลงทุนที่ยื่นประกอบในการเปิดบัญชี ซึ่งนักลงทุนจะต้องทำการฝากเงินเพื่อเป็นหลักประกันขั้นต้น ร้อยละ 0.20 (20%) ไว้กับทางบริษัทฯ ตามอัตราที่ทางการกำหนดก่อนการซื้อหลักทรัพย์ โดยชำระราคาค่าซื้อหลักทรัพย์ ภายใน 2 วันทำการหลังจากวันที่ทำรายการซื้อขาย (T+2)

2.บัญชีเงินฝาก (Cash Balance) เป็นบัญชีที่ลูกค้านำเงินสดมาวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเต็มจำนวน(100%) ไว้กับโบรกเกอร์ก่อนการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยบัญชีประเภทนี้จะไม่มีการพิจารณาวงเงินการซื้อขายหลักทรัพย์จะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินฝากที่ลูกค้าโอนเข้ามายังบัญชีบริษัท ลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยเงินฝากดังกล่าวในอัตราที่บริษัทกำหนด และการคิดดอกเบี้ยจะคิดคำนวณเป็นรายวันตามจำนวนเงินสดคงเหลือในบัญชีของลูกค้า อย่างไรก็ตามบัญชีประเภทนี้จะได้รับค่าซื้อหรือหักค่าขายทันที ณ วันที่เกิดรายการขายหรือซื้อหลักทรัพย์ โดยเงินค่าซื้อและค่าขายดังกล่าวจะถูกโอนหรือหักจากบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่เปิดไว้กับบริษัทของลูกค้าเท่านั้น ในกรณีที่ลูกค้าต้องการถอนเงินออกจากบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่เปิดไว้กับบริษัท ลูกค้าจะต้องกรอกแบบฟอร์ม Money Withdrawalจากนั้นส่งเอกสารดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่การตลาด ก่อนเวลา 11.00 น. โดยลูกค้าจะได้รับเงินในวันทำการถัดไป ซี่งบริษัทจะโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของลูกค้าตามที่แจ้งไว้ในแบบฟอร์ม (อนึ่ง ในการพิจารณาจำนวนเงินที่ลูกค้าสามารถเบิกถอนได้นั้น บริษัทจะพิจารณาหลักทรัพย์ที่ลูกค้ามีอยู่ในบัญชี ว่าเป็นหลักทรัพย์ที่มีการชำระราคาแล้ว หรือยังไม่ครบรอบการชำระราคาตามเกณฑ์ T+2 หากจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องการเบิกถอนส่งผลให้เงินคงเหลือในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าไม่สามารถชำระค่าซื้อหลักทรัพย์ที่ยังไม่ครบรอบตามเกณฑ์ T+2 ได้ บริษัทจะไม่สามารถโอนเงินเต็มจำนวนให้แก่ลูกค้าได้)

3.บัญชีเครดิตบาลานซ์ (Credit Balance Account) หรือที่เรียกว่าบัญชี Margin เป็นบัญชีที่สามารถกู้เงินบริษัทตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของจำนวนที่กู้ได้ของหลักทรัพย์แต่ละตัว โดยลูกค้าต้องวางเงินสดและ/หรือหลักทรัพย์เป็นหลักประกันการชำระหนี้ ในอัตราส่วนขั้นต่ำที่บริษัทฯ กำหนด ซึ่งลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยจากบริษัทฯ หากจำนวนเงินสดที่วางเป็นหลักประกันสูงกว่ายอดหนี้ และจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืมหากยอดหนี้สูงเกินกว่าเงินสดที่วางหลักประกัน

4.บัญชีซื้อขายตราสารอนุพันธ์ (Derivatives Trading Account) เป็นบัญชีซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX โดยนักลงทุนจะต้องทำการฝากเงินเพื่อเป็นหลักประกันตามอัตราที่ทางการกำหนดก่อนส่งคำสั่งซื้อขายทุกครั้ง ซึ่งบัญชีซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับบัญชีเงินสด (Cash Balance) ของบัญชีซื้อขายหุ้น กล่าวคือ นักลงทุนฝากเงินเข้ามาเท่าไหร่สามารถซื้อขายได้ตามจำนวนเงินที่ฝากเข้ามาเท่านั้น

ค่าธรรมเนียม

อัตราเรียกเก็บค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์แบบขั้นบันได โดยมีรายละเอียด ดังนี้

มูลค่าการซื้อขาย
ต่อวัน(บาท)
ซื้อขายผ่าน
เจ้าหน้าที่การตลาด
ซื้อขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ต
บัญชีเงินสด (ATS) บัญชีแคชบาลานซ์/
บัญชีเครดิตบาลานซ์
ไม่เกิน 5 ล้านบาท 0.257% 0.207% 0.157%
5 - 10 ล้านบาท 0.227% 0.187% 0.137%
10 -20 ล้านบาท 0.187% 0.157% 0.117%
ตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป 0.157% 0.127% 0.107%

หมายเหตุ
1. อัตราค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ข้างต้น ได้รวมค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่ต้องส่งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้แก่
ค่าธรรมเนียมตลาดหลัทกรัพย์ Trading Fee อัตรา 0.005 % ของมูลค่าการซื้อขาย
ค่าธรรมเนียมการชำระราคา Clearing Fee อัตรา 0.001 % ของมูลค่าการซื้อขาย
ค่าธรรมเนียมการกำกับดูแล Regulatory Fee อัตรา 0.001 % ของมูลค่าการซื้อขาย
2. อัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

UTRADE Newsletter